วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ธรรมชาติกับชีวิต

ธรรมชาติกับชีวิต



ทัศนียภาพอันสวยงามภายในศูนย์พัฒนาห้วยฮ่องไคร้

(๑)
     เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา  น้องแพรวพราว(ลูกสาวคนเล็ก)ได้รบเร้าให้ผมพาเธอไปเที่ยวชมสวนสัตว์เชียงใหม่ เพราะเธออยากจะไปดูสัตว์หลายอย่างที่เธอชื่นชอบ แต่เนื่องจากเคยพาไปหลายครั้งแล้วและช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวไปชมกันจำนวนมาก ทำให้การไปมาค่อนข้างจะลำบาก ผมก็เลยพาเธอไปชมสวนสัตว์ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ แทน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านแม่ตาดมากนัก
            เมื่อไปถึง ผมพาเธอและเด็กคนอื่นๆ เดินเที่ยวชมสัตว์ต่างๆ ภายในศูนย์ห้วยฮ่องไคร้ ซึ่งมีอยู่หลายอย่างด้วยกัน เช่น ลิง หมูป่า กวางป่า เก้ง นกยูง ไก่ป่า และนกนานาชนิด รวมทั้งพาเที่ยวชมส่วนอื่นๆ อีกหลายอย่าง ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและสนุกสนานของเด็กๆ ทุกคน
             ที่จริง ผมเคยไปที่ศูนย์ห้วยฮ่องไคร้แห่งนี้แล้วหลายสิบครั้ง บางครั้งก็ไปอบรมสัมมนา บางช่วงก็ไปขอกล้าไม้มาปลูกในหมู่บ้าน บางเวลาก็พาเพื่อนๆ ไปนั่งตกปลาผ่อนคลายอารมณ์ และบางครั้งก็พาเพื่อนหรือญาติพี่น้องจากต่างจังหวัดไปเที่ยว
            แม้จะไปบ่อยก็จริง แต่ก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย และยังอยากจะไปอีกเรื่อยๆ เพราะรู้สึกประทับใจในบรรยากาศและธรรมชาติอันแสนจะงดงามของที่นั่น 


                                                               (๒)
          ทุกๆ ครั้งที่ผมไปเที่ยวชมที่ศูนย์ห้วยฮ่องไคร้แห่งนี้ นอกเหนือจากผมจะมีความสุขและได้รับความประทับใจหลายๆ อย่างกลับมาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผมได้ศึกษาเรียนรู้ ก็คือความเข้าใจในธรรมชาติ และความรู้สึกซาบซึ้งในคุณค่าและความสำคัญของมัน  ซึ่งทำให้ผมยิ่งเกิดความรัก ความหวงแหนในธรรมชาติสิ่งแวดล้อมมากขึ้นว่าเดิม
            อันว่า....ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากต่อทุกชีวิต  และชีวิตกับธรรมชาติต่างก็มีความเกี่ยวเนื่อง เชื่อมโยง และผูกพันกันอยู่ตลอดเวลา ในฐานะที่ธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆ เป็นปัจจัยที่จะเกื้อกูลให้ชีวิตเกิดความสมดุลขึ้น
            ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ สายน้ำ ดิน ฟ้า อากาศ และสัตว์ป่า ล้วนมีคุณูปการะต่อชีวิตของมนุษย์ ทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับร่างกายและจิตใจ  ถ้าหากว่าธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างๆ ถูกทำลายลงไป ก็จะพลอยทำความเดือดร้อนให้เกิดขึ้นกับชีวิตของมนุษย์เองด้วยเช่นกัน
            ในความเป็นจริง มนุษย์กับธรรมชาติเป็นความสัมพันธ์ที่มิอาจจะแบ่งแยกออกจากกันได้ เพราะมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และธรรมชาติเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของมนุษย์      การสร้างทัศนคติที่ไม่ดีให้เกิดขึ้นกับธรรมชาติ การมองไม่เห็นคุณค่าของธรรมชาติ หรือการมองธรรมชาติเป็นแค่เพียงเหยื่ออันโอชะที่ตนเองจะพึงกอบโกยเอาผลประโยชน์จากมันเพียงอย่างเดียวแบบหน้ามืดตามัว โดยที่ไม่คำนึงถึงผลร้ายที่จะตามมาในอนาคต  จึงเป็นการเข้าใจที่ผิดพลาดอย่างรุนแรง
            ปัจจุบันนี้มีปัญหามากมายที่เกิดขึ้นจากการที่มนุษย์ได้กระทำต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำเน่าเสีย ปัญหามลภาวะอากาศเป็นพิษ ปัญหาอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น ปัญหาน้ำท่วม  ปัญหาฝนกรด ปัญหาฝนแล้งหรือตกไม่ถูกต้องตามฤดูกาล  และปัญหาปฏิกิริยาเรือนกระจก เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเกิดมาจากน้ำมือของมนุษย์เอง ที่พากันประทุษร้ายและทำลายธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ โดยขาดการพิจารณาไตร่ตรองและขาดการยั้งคิด จนนำมาซึ่งความเดือดร้อนอย่างที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
            ตราบใดที่มนุษย์ยังมองไม่เห็นถึงความสำคัญของธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมที่มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงและสัมพันธ์กับสรรพชีวิต  ยังมองทุกอย่างโดยความแปลกแยก แบ่งซอยแยกส่วน และมองเห็นว่าเป็นเพียงทรัพยากรที่จะตนเองจะพึงครอบครองกอบโกยเพื่อเอาผลประโยชน์  ตราบนั้นมนุษย์ก็คงจะต้องพบกับความเจ็บปวดและก้มหน้ารับผลกรรมที่ตนเองได้ร่วมกันกระทำขึ้นโดยไม่มีวันสิ้นสุด อย่างไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้
           ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดีจะเป็นเสมือนยาขนานเอกที่จะชุบสรรพชีวิตให้มีชีวิตชีวาและมีความสุข เบิกบาน ร่มเย็นอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งจะเอื้ออำนวยประโยชน์และความสุขให้กับสรรพชีวิตอย่างมหาศาล ถ้าหากว่าทุกๆ คนหันหน้ามาทำการศึกษาและทำความเข้าใจถึงคุณค่าและความสำคัญของมันอย่างจริงจัง และร่วมแรงร่วมใจกันคุ้มครองป้องกันรักษาเอาไว้ โดยไม่ให้มีการทำลายลงไปอย่างที่กำลังเป็นอยู่
           ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่มีคุณูปการะอันยิ่งใหญ่ต่อสรรพชีวิต มนุษย์จึงควรที่จะสำเหนียกรู้อยู่เสมอว่า ธรรมชาติคือชีวิต ชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และการเบียดเบียนหรือทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อมทั้งหลายให้หมดสิ้นไป ก็คือการเบียดเบียนหรือทำลายชีวิตของมนุษย์นั่นเอง




 สองพี่น้องกอดกันกลม

เด็กๆ กำลังดูแผนที่ของศูนย์ฯ

บ่อเลี้ยงเต่า

กำลังดูหมู่ป่า

ให้อาหารปลา

หน้าค่ายลูกเสือ

ปลาทับทิม

ต้นสักทอง








แหล่งที่มาhttps://www.gotoknow.org/posts/473456



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น